วงกลมชั้นที่ 1 องค์ประกอบที่มีผลโดยตรงต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
ซึ่งการเรียนรู้ของผู้เรียนที่อยู่ใจ
เนจดศนย์รวมของกิจกรรมทุกอย่างในชั้นเรียนและในโรงเรียน
การเรียนรู้ของผู้เรียนได้รับ
โดยตรงจากองค์ประกอบที่อยู่ในวงกลมชั้นที่
ประกอบด้วยหลักสูตร-เนื้อหาของสิ่งที่สอน วิธีการ สอนที่ใช้
และการวัดผล(แบบวินิจฉัย)การเรียนรู้ของผู้เรียน
Glickman (1998) เสนอแนะว่า
ให้ดูจุดศูนย์กลางของวงกลมต่างๆ ที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน ศูนย์กลางคือเป้าหมาย
วงกลมในสุดเป็นความพยายามของชั้นเรียนและโรงเรียนที่จะพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ให้ ผู้นแก่ผู้เรียนทุกคน
วงกลมชั้นที่ 1 การเรียนรู้ของผู้เรียนสัมพันธ์กันโดยตรงกับ
เนื้อหาที่นํามาสอน วิธีการสอน และกลวิธีที่นํามาใช้ในการประเมิน
วงกลมชั้นที่ 2 องค์ประกอบซึ่งจัดระบบภาระงานของผู้นํา (การเรียนรู้ ที่ทําต่อครูผู้สอน
ซึ่งการ ปรับปรุงการสอนในชั้นเรียนประกอบด้วย จุดมุ่งเน้น
(ต้องใส่ใจในเรื่องใดบ้างในการปรับปรุงการสอน การ สังเกตชั้นเรียน และการใช้ข้อมูล
ผลสัมฤทธิ์ และการพิจารณาตัวอย่างชิ้นงานของผู้เรียน) แนวทางที่จะทำร่วมกับครู
และโครงสร้างและรูปแบบ เพื่อจัดระบบภาระงานการปรับปรุงการสอน
จากภาพวงกลมชั้นที่ 2 จุดศูนย์กลางเดียวกันกับวงกลมแรกเพื่อพัฒนาคุณภาพการสอนในชั้นเรียน
เบ่งที่จคเน้นที่ผู้สอนกำหนดให้เป็นเป้าหมายการเรียนรู้
ต่อมาพิจารณาแนวทาง-วิธีการดำเนินการระหว่าง บุคคล(วิธีการสั่งการและควบคุม
วิธีการสั่งการและให้ข้อมูล วิธีการแบบร่วมคิดร่วมทำและวิธี ไม่สั่งการ) ซึ่ง
จะใช้กับครูที่จัดการสอนในชั้นเรียนโดยตรง และโครงสร้างและรูปแบบของวิธีการต่าง ๆ
ได้แก่ การนิเทศ แบบคลินิก เพื่อแนะเพื่อน เพื่อผู้ติชม
และกลุ่มวิจัยเชิงปฏิบัติการตามตารางที่กำหนดพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก
วงกลมชั้นที่ 3 องค์ประกอบซึ่งส่งเสริมให้การดำเนินงานครอบคลุมบริบทการปรับปรุงการสอน
ประกอบด้วย ลำดับความสำคัญในการปรับปรุงโรงเรียน
ที่ได้จากวิสัยทัศน์ของโรงเรียนและความจำเป็น เร่งด่วนในการพัฒนาโรงเรียน
แผนการพัฒนาวิชาชีพ ทรัพยากรและระยะเวลา และการประเมินผลวิธีการ
และสิ่งที่ผู้เรียนกำลังเรียนรู้อยู่และวิธีการใช้ข้อมูลจากการประเมินเป็นแนวทางในการดำเนินงานจำเป็น
เร่งด่วนของโรงเรียนต่อไป
จากภาพวงกลมชั้นที่ 3 อิทธิพลที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอน ซึ่งเป็นองค์ประกอบของ
กระบวนการปฏิรูปการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงโรงเรียนทั้งหมดที่ดําเนินการอย่างต่อเนื่อง
ที่เป็นลำดับ ความสำคัญในการปรับปรุงโรงเรียน ถัดมาเป็นการพัฒนาด้านวิชาชีพครู
โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานมุ่งไปที่ครู ทุกคน และสุดท้ายการประเมินผลทั้งการประเมินระหว่างภาคเรียนและปลายภาคเรียน
เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ของผู้เรียนทั้งหมด
Glickman, Carl D (2002 นักแปลเครือข่ายของกรมวิชาการ 2546
:131) สรปค้การ:
เชื่อมโยงความสัมพันธ์กับภาพองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
ดังต่อไปนี้
1. เป้าหมายของโรงเรียนคืออะไร
จะบรรลุเป้าหมายของโรงเรียนได้อย่างไร และใช้เป้าหมายอย่างไร (ช)
2. แผนพัฒนาวิชาชีพครูที่สอดคล้องกับเป้าหมายของโรงเรียนคืออะไร
แผนนี้เปิดโอกาะ
บุคคลภายนอกตรวจสอบการสอนของผู้สอนและการเรียนของผู้เรียนได้อย่างไร (ฌ)
3.ประเมินความก้าวหน้าทั้งหมดมุ่งสู่เป้าหมายการเรียนรู้ของผู้เรียนทั้งโรงเรียนได้อย่าง
(ญ)
4. อะไรคือจุดมุ่งเน้นในการสอนและการเรียนรู้ที่ผู้สอนทุกคนต้องปฏิบัติ
(จ)
5. จะใช้รูปแบบการนิเทศแบบใด (แบบคลินิก
แบบเพื่อนแนะเพื่อน แบบกลุ่มวิจัย ) และ เครื่องมือใด
(การสังเกต ผลงานที่ได้รับมอบหมาย การปฏิบัติ แฟ้มผลงาน ฯลฯ) (ช)
6. จะใช้วิธีการอะไรในการทํางานร่วมกับผู้อื่น
(แบบไม่สั่งการ แบบร่วมคิดร่วมทําแบบนี้ และให้ข้อมูล แบบสั่งการและควบคุม) (ฉ)
7.ผู้สอนแต่ละคนจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร
ในการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน (ง)
8. ผู้สอนแต่ละคนจะเปลี่ยนแปลงวิธีการสอนอย่างไร
(ค)
9. ผู้สอนแต่ละคนจะเปลี่ยนเนื้อหาที่สอนอย่างไร (ข)
การใช้คําถามนํานี้จะต้องคิดพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบอาจด้วยตนเองหรือร่วมกันในการ
วางแผน เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการสอน พัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ
และการ พัฒนาการศึกษาให้สูงขึ้นเป็นที่น่าพึงพอใจ
Ghaye, Anthony (1998) กล่าวสรุปไว้ว่า
การเรียนการสอนนั้นสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ด้วยการ ทบทวนตนเอง
กระบวนการทบทวนตนเองทำให้ครูเข้าใจการสอนของตัวเอง เข้าใจว่าอะไรสามารถทำได้
และอะไร ได้น้อย ช่วยให้ตัดสินใจอย่างฉลาด
และเข้าใจความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเรียนและใน โรงเรียนได้
กระบวนการในการทบทวนตนเองจะก้าวหน้าไปได้ต้องอาศัยกรอบ โครงสร้างที่ดี ความท้าทาย
และแรงสนับสนุน
การทบทวนตนเองหลังการสอนไม่ได้เป็นเป็นเพียงการเรียนรู้จากประสบการณ์ของใคร คนใดคนหนึ่งเป็นการส่วนตัวตามลำพัง
แต่เป็นการสร้างองค์ความรู้ที่มีศักยภาพที่จะช่วยให้ครูรู้แจ้งเห็นจริง
และมีความมั่นใจในการทำงาน การทบทวนตนเองเป็นกระบวนการที่สร้างสรรค์
สามารถช่วยให้ครูมี วิสัยทัศน์ มองเห็นภาพการเรียนการสอนที่ดี
และประคับประคองและทะนุบำรุงสถานภาพที่ดีเช่นนั้นไว้ได้
กระบวนการทบทวนตนเองจะต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
การจะปฏิบัติให้ได้ประโยชน์สูงสุดจะต้องปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ และการทบทวนตนเองหลังการสอนเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตั้งข้อสงสัยหรือทบทวนสิ่งที่ครู
และโรงเรียนปฏิบัติอยู่ เป็นการถามถึงวิธีการและเป้าหมายของการศึกษา
Schon, (1983) อธิบายว่า การใช้ความคิดพิจารณาระหว่างการเรียนการสอนเรียกว่า
“การทบทวนตนเองระหว่างงการสอน” (reflection-in-action) ส่วนการคิดไตร่ตรองหลังการเรียนการสอน เรียกว่า “การทบทวนตนเองหลังการสอน”
(reflection - on practice) ซึ่งจะเกิดขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น