Bob Pearlman อ้างถึงใน นฤมล ปภัสสรานนท์.2558 : 67-68
ได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับการออกแบบสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนทักษะในศตวรรษที่
21 โดยตั้งคำถามว่า “ความรู้และทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับ
นักเรียนในศตวรรษที่ 21” และควรตอบคำถามตามประเด็นคำถามต่อไปนี้
-อะไร
คือ หลักสูตร การเรียนการสอนและกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
-สิ่งที่ใช้ประเมินผลการเรียนรู้ทั้งระดับโรงเรียน
และระดับชาติ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน การมีส่วนร่วมของนักเรียน
และการบริหารตนเอง
-เทคโนโลยีจะสามารถสนับสนุนการเรียนการสอน
หลักสูตรและการประเมินผลของศตวรรษที่ 21 เพื่อสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ร่วมได้อย่างไร
-อะไร
คือ สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ทางกายภาพ(ห้องเรียนโรงเรียนและโลกแห่งความจริง)
ที่ส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
จากการศึกษาสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ในศตวรรษที่
21 จากเว็บไซด์ ได้นำเสนอสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ไว้ว่า คือ
ระบบสนับสนุนที่จัดสรร เพื่อให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
เป็นระบบที่รองรับความต้องการ เพื่อการเรียนรู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้เรียนทุกคนและสนับสนุนความสัมพันธ์กับมนุษย์ในทางที่เป็นประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ เป็นการรวมเอาโครงสร้าง
เครื่องมือและชุมชนที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนและนักศึกษา
เพื่อที่จะบรรลุความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 นี้ ตามความต้องการของทุกคน
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 จะเป็นระบบ ที่สอดคล้องกันได้อย่างลงตัว คือ
-สร้างข้อปฏิบัติเพื่อการเรียนรู้
ให้การสนับสนุนจากผู้คน โดยรอบและสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่จะให้การสนับสนุนการเรียนการสอนและการเรียนรู้
เพื่อให้ได้ผลเชิงทักษะในศตวรรษที่ 21
-สนับสนุน
ชุมชน การเรียนรู้ระดับมืออาชีพที่ช่วยให้นักศึกษา
ทำงานร่วมกันแบ่งปันวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดและบูรณาการทักษะในศตวรรษที่ 21
ไปสู่การปฏิบัติในห้องเรียน
-ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้ในบริบทของศตวรรษที่
21 (เช่นผ่านโครงการหรืองานอื่น ๆ ที่นำไปใช้)
-ช่วยให้เข้าถึง
เครื่องมือการเรียนรู้ที่มีคุณภาพเทคโนโลยีและทรัพยากร
-จัดสรร
ให้ออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในศตวรรษทื่ 21 สำหรับการเรียนรู้แบบกลุ่ม
ทีมงานและของแต่ละบุคคล
-รองรับ
ชุมชนที่มี การขยายตัวและการมีส่วนร่วมระหว่างประเทศในการเรียนรู้ทั้ง
การเรียนแบบเผชิญหน้า face to face และ
ออนไลน์
กลวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ
(Classroom Instruction That works)
Marzano (2012)
ได้นำเสนอกลวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ ปรพกอบด้วย 3 ส่วน คือ
1.การสร้างสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ (Creating the Environment for Learning)
2.การช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้ความเข้าใจ
(Helping students Develop Understanding)
3.การช่วยให้ผู้เรียนให้ขยายและนำความรู้ไปใช้
(Helping students Extend and Apply Knowledge)
กลวิธีที่
1 เป็นพื้นฐานสำคัญ เมื่อผู้สอนสร้างสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้
จะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย โดยการให้ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียน
แลกเปลี่ยนเรียนรู้พัฒนาทักษะการเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่น
ตลอดจนการติดตามและพัฒนาความรู้ของตนเอง
กลวิธีที่
2 เป็นการช่วยผู้เรียนในการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ
จัดการกับความรู้จัดลำดับและเชื่อมโยงความรู้เก่ากับความรู้ใหม่
ตรวจสอบความรู้และสร้างมโนทัศน์(Concept) ที่ถูกต้อง ซึ่งกระบวนการบูรณาการและการเรียนรู้กระบวนการใหม่แต่ละประเภทของความรู้จะเกี่ยวข้องกับ
1.การสร้างขั้นตอนที่จำเป็นในแต่ละกระบวนการหรือทักษะ
2.พัฒนามโนทัศน์และความเข้าใจในกระบวนการและการปฏิบัติอย่างหลากหลาย
3.ปฏิบัติตามทักษะที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นประจำ
กลวิธีที่
3 คือ ช่วยผู้เรียนขยายและประยุกต์ใช้ความรู้
เป็นการช่วยให้ผู้เรียนได้ความรู้ได้ความรู้มากกว่าคำตอบที่ถูกต้อง (right answer)
โดยให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ขยายขอบข่ายความรู้
โดยประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตจรองเป็นบริบทแห่งความเป็นจริง (Real-world
Contexts) มีความเป็นเหตุผล จึงเป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น