การบูรณาการเป็นการกำหนดเป้าหมายการเรียน
ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ
โดยนำกระบวนการเรียนรู้กลุ่มสาระเดียวกันหรือต่างกลุ่มสาระการเรียนรู้มาบูรณาการใน
การจัดการเรียนการสอนซึ่งจัดได้หลายลักษณะ (กรมวิชาการ 2545 : 21-22)
รูปแบบของการบูรณาการ (Models of Integration) 4 รูปแบบ คือ
1.บูรณาการแบบสอดแทรก
(Infusion Instruction) ผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ต่างๆ
กับหัวข้อเรื่องสอดคล้องกับชีวิตจริงหรือสาระที่กำหนดขึ้นมา เช่น เรื่อง น้ำ พืช
ผู้สอนสามารถ เชื่อมโยงสาระ และกระบวนการเรียนรู้ของกลุ่มสาระต่างๆ เช่น การอ่าน
การเขียน การคิดคำนวณ การคิดวิเคราะห์
ทำให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะกระบวนการเรียนรู้ไปแสวงหาความจริงจากหัวข้อเรื่องที่กำหนด
2.บูรณาการแบบคู่ขนาน
(Parallel Instruction) มีผู้สอนตั้งแต่สองคนขึ้นไปร่วมกันจัดการเรียนการสอนโดยอาจยึดหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
แล้วบูรณาการเชื่อมโยงแบบคู่ขนาน เช่น ผู้สอนวิทยาศาสตร์ เรื่อง เงา
ผู้สอนอาจสอนคณิตศาสตร์ เรื่องวัดระยะทางโดยการวัดเงา คิดคำนวณในเรื่องเงาในช่วงเวลาต่างๆ
หรืออีกคนหนึ่งอาจให้ผู้เรียนรู้ศิลปะเรื่องเทคนิคการวาดรูปที่มีเงา
3.บูรณาการแบบสหวิทยาการ
(Multidisciplinary Instruction) การบูรณาการ
ในลักษณะนำเนื้อหาจากหลายกลุ่มสาระมาเชื่อมโยงเพื่อจัดการเรียนรู้
ซึ่งโดยทั่วไปผู้สอนมักจัดการเรียนการสอน แยกตามรายวิชาหรือกลุ่มวิชา
แต่ในบางเรื่องผู้สอนจัดการเรียนร่วมกันในเรื่องเดียวกัน เช่น
วันสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ผู้สอนภาษาไทยจัดให้ผู้เรียนรู้ภาษาคำศัพท์
เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ผู้สอนวิทยาศาสตร์จัดกิจกรรมค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
ผู้สอนสังคมให้ผู้เรียนค้นคว้าหรือทำกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
และครูผู้สอนสุขศึกษาอาจจัดให้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ
4.บูรณาการแบบโครงการa(Disciplinary Instruction) ผู้สอนสามารถ บูรณาการเป็นโครงการ
โดยผู้เรียนและครูผู้สอนร่วมกันสร้างสรรค์โครงการขึ้น
โดยใช้เวลาการเรียนต่อเนื่องกัน ได้หลายชั่วโมง
ด้วยการนำเอาชั่วโมงของวิชาต่างๆที่ครูผู้สอนเคยแยกกัน มาร่วมเป็นเรื่องเดียวกัน
มีเป้าหมายเดียวกันในลักษณะของการสอนเป็นทีม (Team) เรียนเป็นทีม
ในกรณีที่ต้องการเน้นทักษะเป็นพิเศษ ครูผู้สอนสามารถแยกกันสอนได้ เป็นฐาน ค่าย
เช่น ค่ายวิทยาศาสตร์ ค่ายดนตรี ค่ายภาษาอังกฤษ ค่ายศิลปะ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น